ทั้งนี้ นายสมชาติ ภู่เผือก เคยก่อเหตุในลักษณะลวงโลกมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน โดยพฤติกรรมของเจ้าตัวนั้นจะเป็นลักษณะการว่าจ้าง เพื่อจัดงานมหรสพงานบุญ ติดต่อนักร้อง เครื่องเสียง วงดนตรี และจัดหาพื้นที่ให้แม่ค้ามาตั้งแผงขายของ พร้อมเก็บค่าเช้าที่ แต่สุดท้ายกลับเชิ่ดเงินหนีและเบี้ยวจ่ายค่าจ้างต่าง ๆ
สำหรับพฤติการณ์ของ หลวงพี่น๊อต 4 G หากย้อนดูจะทราบว่า มักจะทำตัวเป็นผู้จัดงานอีเวนต์ หรือมหกรรมงานเกษตรแฟร์ต่าง ๆ โดยจะอ้างว่ามีการแสดงของศิลปินลูกทุ่งชื่อดัง ให้เหล่าบรรดาแม่ค้าสนใจจับจองที่ขายของ แล้วเรียกเก็บเงิน
เมื่อย้อนไทม์ไลน์ช่วงประมาณปี 2561 หลอกวงดนตรีอ้างมาเล่นมหรสพเพื่อทำบุญกระดูกพ่อ ครั้งนั้นทำให้มีผู้เสียหายเสียทรัพย์ไปจำนวน 105,000 บาท ต่อมาไม่จบปี 2562 ช่วงเดือนสิงหาคม หลอกว่าจ้างศิลปินวงการบันเทิงให้ไปแสดงที่คอนเสิร์ตที่หาดขนอม อ.ขนอม จ.นครศรีธรรมราช โดยลักษณะคือให้ศิลปินผู้เสียหายที่หลงเชื่อ อาทิ บอล เชิญยิ้ม, แจ๊ส ชวนชื่น, ป้าง นครินทร์ เป็นต้น อัดคลิปเชิญชวนจนพ่อค้าแม่ค้าหลงเชื่อเช่าที่ขายของ พอรับเงินแล้วกลับหนีหาย
ก่อนที่จะถูกกลุ่มผู้เสียหายกว่าครึ่งร้อย เข้าแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษกับนายสมชาติ ภู่เผือก โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รวบตัวได้ในพื้นที่จังหวัดเชียงราย พร้อมตั้งข้อหาฉ้อโกงทรัพย์ ก่อนจะนำตัวไปดำเนินคดีตามกฎหมาย และเข้าไปไปชดใช้กรรมภายในเรือนจำ
กระทั่งนายสมชาติ พ้นโทษออกมา แต่นิสัยกลับไม่เปลี่ยน ก่อเหตุอีกครั้งในพื้นที่จังหวัดปราจีนบุรี โดยเหตุการณ์ล่าสุดนั้นหลังจากที่เจ้าตัวพ้นโทษช่วงกลางปี 64 ที่ผ่านมา ก็ได้เดินทางไปยังที่พักสำนักสงฆ์แห่งหนึ่ง ในพื้นที่ตำบลบุพราหมณ์ อำเภอนาดี จังหวัดปราจีนบุรี
โดยนายสมชาติ ไปขอเจ้าสำนักบวช อ้างชื่อว่า "ก็อต" จากเดิมที่ชื่อน็อต เพื่อหลบเลี่ยงคดีเก่า โดยที่เจ้าสำนักก็ไม่ทราบเรื่อง ก่อนที่จะมาก่อเหตุในลักษณะเดิมหลอกลวงอ้างจะสร้างสิ่งต่าง ๆ ในวัด สุดท้ายไม่เป็นไปตามที่พูด ซ้ำยังทำให้คนเข้าใจผิดว่าการจัดงานมหรสพต่าง ๆ เป็นความประสงค์ของเจ้าสำนัก ก่อนที่จะวางแผนให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปจับกุมไปดำเนินคดี
หลังจากนั้นเขาก็ปฏิบัติตัวดีมาตลอด หรือมีพฤติกรรมอวดอุตริแต่อย่างใด ซ้ำยังช่วยงานวัดมาโดยดีตลอด กระทั่งช่วงเดือนสิงหาคม - กันยายน เริ่มมาพูดคุยกับอาตมาว่าพอดีทางญาติอยากเป็นเจ้าภาพสร้างท้าวเวสสุวรรณ อาตมาเลยอนุญาตและไม่ได้มีการพูดคุยกับทางเจ้าภาพแต่อย่างใด หลังจากนั้นถัดมาอีก 1 สัปดาห์ เขาก็บอกว่าพอดีพี่สาวของเขาต้องการเป็นเจ้าภาพสร้างกุฏิ จำนวน 6 หลัง เพิ่มเติมจากที่มีอยู่ 3 หลัง ด้วยความเชื่อใจและเห็นว่าไม่ได้เสียหายอะไร เลยตกลงให้เขาดำเนินการ
หลังจากนั้นไม่นาน ก็เห็นมีทีมก่อสร้าง ทีมออกแบบ คนงาน วัสดุเหล็ก โครงสร้าง ทยอยนำมาในพื้นที่ อาตมาก็เลยไม่ได้ตั้งข้อสังเกตอะไร ต่อมาในช่วงเดือนตุลาคม 64 เขาก็ได้มาบอกอีกว่า "โยมแม่จะเป็นเจ้าภาพในการจัดซื้อรถตู้หลังคาสูง มือสอง จำนวน 400,000 บาท นำมาถวายให้ทางวัดใช้ในกิจของสงฆ์ สุดท้ายก็มีมาจริง"