เป็นหนึ่งข่าวที่ถูกสังคมให้ความสนใจเป็นจำนวนมากเมื่อวันที่ 11 พ.ค.2564 ที่ประชุม ครม.อนุมัติมาตรการช่วยเหลือ
ประชาชนในการเพิ่มกำลังซื้อช่วง CV-19 ระลอกที่ 3 เพื่อดูแลประชาชนกว่า 40 ล้านคนเป็นการเร่งด่วน
โดยเห็นชอบกรอบเงินกู้เพื่อเยียวยาและฟื้นฟูเศรษฐกิจ ปรับปรุงโครงการเราชนะ และ ม.33 เรารักกัน
เพิ่มวงเงินทั้ง 2 โครงการรวมประมาณ 78,700 ล้านบาท โดยทั้ง 2 โครงการจะเพิ่มเงินให้กับผู้ได้รับสิทธิ์ผ่านระบบ
แอปพลิเคชัน เป๋าตัง สัปดาห์ละ 1,000 บาท เป็นจำนวน 2 สัปดาห์ โดยจะโอนวงเงินสิทธิ์
ในวันพฤหัสบดีที่ 20 และ 27 พ.ค.นี้ และให้ใช้เงินไปจนถึงวันที่ 30 มิ.ย.2564
คนละครึ่ง ยังไม่มาเบื้องต้นรัฐบาลเยียวยาก่อน 2 มาตรการเดือนนี้ ซึ่งรัฐบาลจะมีมาตรการเพิ่มเติมเเละจะขับเคลื่อเต็มที่
ในไตรมาสที่ 3 คือ ตั้งเเต่เดือน ก.ค.เป็นต้นไป ซึ่งในช่วงนั้นจะมีมาตรการคนละครึ่งเฟส 3
เติมเงินให้ผู้มีรายได้น้อย เเละมาตรการ ยิ่งใช้ ยิ่งได้
ผศ.ธนวรรธน์ พลวิชัย ประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ ม.หอการค้าไทย
มองว่า มาตรการต่าง ๆ ควรขับเคลื่อนทันทีตั้งเเต่ไตรมาสที่ 2
ส่วนหนึ่งของภาคธุรกิจที่มหาวิทยาลัยหอการค้าไทยได้ไปสำรวจมา มาตรการ คนละครึ่ง
ยังเป็นโครงการที่ช่วยกระตุ้นรายได้และเงินหมุนเวียนในเศรษฐกิจได้ดี เพราะช่วยลดสินค้าการ
ใช้จ่ายให้ประชาชนถึงร้อยละ 50
ส่วนมาตรการแจก e-Voucher 5,000-7,000 บาทต่อวัน มองว่ายังไม่จูงใจเท่าที่ควร
โดยอาจจะนำช้อปดีมีคืนกลับมาอีกครั้งเพื่อจูงใจกลุ่มประชาชนที่อยู่ในฐานภาษี ร้อยละ 20
พร้อมกันนี้ยังมองว่าเศรษฐกิจไทยยังไม่เข้าสู่ภาวะทดถอย มีแต่ก็น้อยมากแค่
ร้อยละ 10-20 เท่านั้น เนื่องจากรัฐมีมาตรการกระตุ้นการเร่งฉี ด วั ค ซีนที่จะช่วยได้
จึงมีเสียงมากมายจากประชาชนที่ได้รับสิทธิ เรียกร้องให้ โอนเงิน 2,000 สดเป็น 7000 เข้าบัญชีดีกว่า
เพราะใช้งานยาก สมัครยาก แอพล่มบ่อยอย่างไรก็ตาม มี โพลหลายสำนัก
และโพสสอบถามตามกลุ่มต่างๆ ประชาชนเกือบทั้งหมดเห็นว่า ถ้าขอเงินสดจาก 2000 เป็น 7000 บาทเลยดีกว่าไหม
ล่ าสุดคลังได้ออกมาตอบเกี่ยวกับประเด็นดังกล่าวแล้ว ในการเพิ่มงบ
ซึ่งคลังได้ชี้แจงว่าในส่วนของงบประมาณนั้นทางรัฐอนุมัติมาเพื่อจัดสรรได้ตามที่ระบุไปข้างต้น
ซึ่งยังมีการยืนยันว่ายังไม่มีการเพิ่มเงินแน่นอน แต่หากมีอะไรคืบหน้าจะรีบรายงานอีกครั้ง